06 มิถุนายน 2558


การเขียนฟิล์มขาวด้วยหมึก

            แผ่นฟิล์มนี้มีทั้งแบบมัว (คล้ายกระดาษลอกลาย) และฟิล์มใส (เหมือนพลาสติก)

วิธีทำ    -     นำฟิล์มมาทาบบนลายใช้น้ำยา Opaque (ใช้ผสมกับน้ำ) หมึกจีน, หมึก Rotring และเมจิกสีแดงชนิดที่ลบไม่ออก
           -          ระบายหมึกลงบริเวณที่ต้องการ ให้สีลงตามลายทาบบนกระดาษ
            -          การเขียนต้องให้หมึกมีความหนาพอ ถ้าบางหรือผสมหมึกใสเกินไป  จะเกิดแสงผ่านขณะที่อัดสกรีน จะทำให้ลายไม่หลุด, เมื่อนำไปล้างน้ำยาเคลือบออก (การเขียนหนาหรือบางนั้น ก่อนที่จะนำ,ฟิล์มไปอัด ควรตรวจดูที่โต๊ะไฟ ถ้าบางไปก็เขียนทับให้หนาขึ้น  ส่วนที่เกินให้ขูดหรือตัดออกได้)
-          นำฟิล์มที่เรียบร้อยแล้วไปวางบนตู้ไฟ นำสกรีนไปเคลือบน้ำยา เมื่อแห้งแล้วนำมาทาบลงบนลายให้สกรีนแนบกับลาย (ฟิล์ม) จึงเปิดไฟอัด

การเปิดไฟอัดสกรีน  ประมาณ 2-4 นาที ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น

-         น้ำยาเคลือบสกรีน
-          กำลังของไฟที่จะใช้อัด (รวมถึงระยะไฟที่จะใช้) ความสูงของไฟและกระจกฝ้าขึ้นกับความสะดวกในการเปลี่ยนหลอดไฟ
-          รายละเอียดของแบบและการเขียนลายบน,ฟิล์ม


วิธีแยก  คือ การเขียน,ฟิล์มแยกตามสีกับลายที่ออกแบบไว้  หมายถึง การเขียน,ฟิล์มที่จะอัดสกรีนในกรณีลายที่ออกแบบไว้มีหลายสี  ซึ่งจะเขียน,ฟิล์มตามจำนวนสีที่มีอยู่ในตัวลาย เช่น กำหนดให้ลายที่เขียนมี 3 สี คือ แดง เหลือง น้ำเงิน  จะต้องเขียน,ฟิล์ม 3 แผ่น

-          ฟิล์มแผ่นที่หนึ่ง คือ สีแดง
-          ฟิล์มแผ่นที่สอง คือ สีเหลือง
-          ฟิล์มแผ่นที่สาม คือ สีน้ำเงิน

แต่ละแผ่นก็เขียนหมึกแทนสีของลายไป  เมื่อเขียนแล้ว,ฟิล์มทั้ง 3 แผ่นต้องทำเครื่องหมายให้ตรงกัน เนื่องจากสีทั้ง 3 จะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมตามลายบนกระดาษ และต้องอัดสกรีนบล็อคละสี เวลาพิมพ์จะพิมพ์ทีละสี  ดังนั้นการทำเครื่องหมายจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเครื่องหมายไม่ตรงกัน จะทำให้ตำแหน่งของสีและลายเคลื่อนที่ทันทีจากตำแหน่งเดิมที่ควรจะเป็น ทำให้ลายออกมาเสียหรือไม่สวย

การผสมการอัดและน้ำยาไวแสง

-           การอัดนั้นมี 2 ชนิด สีแดง และ สีฟ้า  มีกาวอัดและน้ำยาไวแสง มีส่วนผสมที่เหมือนกัน  จะต่างกันเฉพาะเวลาอัดสกรีนเท่านั้น
-          ใช้กาวอัด 5 ส่วน & น้ำยาไวแสง 1 ส่วน (ถ้าไม่ตรงตามนี้ ล้างแล้วอาจจะหลุดหมด หรือ ล้างไม่ออกเลย)
-          ผสมกาวอัด&น้ำยาไวแสงให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้หมดฟองอากาศเสียก่อน
-          นำสกรีนที่สะอาดคว่ำลง ใช้กาวอัดที่ผสมไว้ เทลงให้ชิดขอบสกรีนด้านใดด้านหนึ่ง
-          ใช้ไม้โปรปาดเคลือบให้กาวอัดหนาบางเท่าๆกัน ปาดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อเสมอเท่ากันแล้วนำไปทิ้งไว้ที่ห้องมืด ใช้เครื่องเป่าให้แห้ง และนำไปอัดกับลายได้ทันที (อย่าให้เป็นลูกคลื่น หรือ หนาบางไม่เท่ากัน อาจทำให้ล้างได้ไม่ดี

โต๊ะไฟอัดสกรีน  เป็นโต๊ะกระจก ใช้กระจกฝ้าหรือใส ส่วนมากนิยมใช้กระจกฝ้า เพราะสามารถเช็คลายแต่งฟิล์มได้  โต๊ะให้ทำเป็นลิ้นชักไว้เปลี่ยนหลอดไฟได้  หลอดไฟนีออน นี้ใช้หลายหลอด (มากน้อยขึ้นอยู่กับโต๊ะ) อัดสกรีน  นอกจากนี้ ควรมีหลอดไฟเล็กสีแดงไว้ประมาณ 1 หลอด เพื่อเช็คดูว่า ลายจะอยู่ในกรอบสกรีนหรือไม่ โต๊ะไฟนี้จะอยู่ในห้องมืด ขณะที่เคลือบกาวอัดในห้องมืด จะเปิดได้เฉพาะไฟแดงเท่านั้น   (* ห้ามใช้ไฟนีออนขณะทำกรอบลงกาวอัด ให้ใช้ไฟเหลือง)

โต๊ะพิมพ์  - ถ้าพิมพ์ผ้านิยมใช้โต๊ะเทียน ซึ่งมีส่วนผสมขึ้ผึ้งกับยางสน ปูผ้าให้เรียบแนบบนโต๊ะก่อน จึงลงมือพิมพ์  คุณสมบัติของเทียนนี้ จะยึดผ้าให้แนบกับโต๊ะเมื่อเวลาสีลงบนผ้าและขณะยกสกรีนขึ้น

ห้องมืด  - เป็นห้องที่มีไว้สำหรับอัดสกรีน จะต้องติดไฟแดงไว้ด้วย ขณะที่ไม่ต้องการแสงสว่างต้องเปิดไฟแดง เพราะน้ำยาและสารเคมีบางอย่างถูกแสงสว่างไม่ได้

ไม้ปาด  -    ไม้ปาดชนิดหน้าตัด นิยมใช้พิมพ์กระดาษ
-          ไม้ปาดหน้าแหลม นิยมใช้พิมพ์ผ้า

วิธีเคลือบสกรีน   ให้ตั้งกรอบสกรีนด้านความยาวขึ้น ให้ด้านบนของสกรีนเอียงคว่ำลงประมาณ 45 องศา ใช้ไม้ปาดสกรีนใส่น้ำยาที่เตรียมไว้เอียงแนบกับผ้าสกรีนด้านล่าง  รูดขึ้นบน 1 ครั้ง กลับด้านบนลงแล้วรูดขึ้นอีกครั้ง ให้ทั่วสกรีน แล้วนำสกรีนไปคว่ำตาก ใช้พัดลมเป่าให้แห้งสนิทในที่มืด แล้วจึงนำมาอัดลาย การอัดลายนี้โดยใช้ไฟอัด จะตั้งไฟอัดได้ 3 แบบด้วยกัน คือ

1.       ไฟส่องจากด้านบนลงมา
      2.      ไฟส่องจากด้านล่างขึ้นบน
3.      ไฟส่องจากด้านข้าง

-          ส่วนระยะเวลาที่ใช้อัดนั้นขึ้นอยู่กับความแรงของไฟและกาวที่ใช้จะไวต่อแสงมากน้อยเพียงไร
                              -          การใช้ไฟหลอดนีออนจากตู้กระจกสำหรับอัดนี้ ใช้เวลาประมาณ 2-4  นาที (เกิดจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากห้องแล็ป )

วิธีอัด  เปิดเฉพาะไฟแดงในตู้อัด นำลายที่ลงสีเรียบร้อยแล้ว ไปวางตรึงด้วยสก๊อตเทป เอาสกรีนที่แห้งสนิทแล้ว วางทับให้แนบกับลาย  ดูให้เครื่องหมายบนสกรีนตรงกับแผ่นลาย ใช้ผ้าหรือกระดาษปูทับด้านในสกรีน แล้วใช้ห่อทรายวางทับอีกครั้ง  แล้วเกลี่ยทรายให้ทั่วเสมอกันตลอดทั่วสกรีน เปิดไฟอัดเสร็จแล้ว นำไปล้างน้ำเย็นครั้งหนึ่ง แล้วล้างเขย่าในน้ำอุ่นเขย่าสกรีนขึ้นๆลงๆ เพื่อกระแทกให้น้ำฉีดขึ้น ตามลวดลายที่อัดไว้จนโปร่งสะอาดดีแล้วตากให้แห้ง


ฟิล์มเขียว  ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ด้านใส เป็นพลาสติก กับ ด้านขุ่นกว่า เป็นสีเขียวด้าน
วิธีทำ –  แกะลายลอกเอาฟิล์มเขียวออก เหลือแต่พลาสติกใสติดอยู่


สกรีนประกอบด้วยกรอบไม้สี่เหลี่ยมขึงตึงด้วยผ้าไหมเนื้อละเอียด เป็นที่มาของชื่อแม่พิมพ์และวิธีพิมพ์ว่า silk screen  เดิมใช้ผ้าไหมสวิส เพราะเป็นผ้าที่มีเนื้อละเอียด การทอสม่ำเสมอ มีขนาดตั้งแต่ 200 เส้นต่อ 2.5 ซม. ลงมา ขนาดที่พอเหมาะ คือ 70 – 140 เส้น ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ความละเอียดของลาย เป็นผ้าที่มีราคาแพงมาก ทำให้ปัจจุบันหันไปใช้ผ้าใยโพลีเอสเตอร์แทน แต่ก็ยังคงมีราคาแพงเช่นเดียวกัน ถ้าต้องการทำให้เป็นสกรีนถาวร นิยมใช้ผ้าสกรีนทำด้วยลวดทองแดง สำหรับสกรีนฝึกหัดใช้ผ้าแก้วไนลอน ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากแต่ได้ผลดีเช่นเดียวกัน

            ขนาดของสกรีนไม่จำกัด ถ้าพิมพ์ตามธรรมดาให้สกรีนมีขนาดใหญ่กว่าลายโดยรอบประมาณ 5 – 10 ซม. ส่วนด้านบนและด้านล่างควรเป็นประมาณ 10 – 15 ซม.  ถ้าจะจัดทำเป็นงานอุตสาหกรรมควรใช้สกรีนขนาดเดียวกันตลอด ทำให้จัดโต๊ะพิมพ์สะดวกขึ้น ขนาดต้องเกินกว่าความกว้างของผ้าที่จะพิมพ์ ทั้งด้านบนและด้านล่างด้านละ 10 – 15 ซม.  ด้านกว้างขึ้นอยู่กับขนาดของลายในหนึ่งวงจรเรียกกันว่า repeat หมายความว่าเมื่อพิมพ์ไปหนึ่งครั้งแล้ว ครั้งต่อไปลายจะหมุนเวียนมาตั้งต้นใหม่กันได้พอดี วงจรของลายต้องไม่ใหญ่เกินไป เพราะขนาดของสกรีนจะต้องกว้างกว่าขนาดของวงจรด้านละ 10 ซม. ถ้าวงจรใหญ่มากจะทำให้สกรีนกว้างมาก เมื่อพิมพ์ด้วยมือจะปาดสีไม่สะดวก สีติดไม่สม่ำเสมอ

            กรอบสกรีนจะเป็นไม้หรือโลหะก็ได้ ในประเทศไทยนิยมใช้ไม้ขนาดหนาประมาณ 2.5 – 4.0 ซม. กว้างประมาณ 5.0 – 7.5 ซม. ใสเรียบทั้ง 4 ด้าน มุมต้องเข้าให้เป็นมุมฉากพอดี กรอบไม้นี้ใช้ไปนานๆ มุมจะรวนได้เหมือนกัน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นิยมใช้กรอบโลหะ  ซึ่งนอกจากจะทนทานแล้วยังใช้กับแท่นพิมพ์สกรีนแบบอัตโนมัติได้ด้วย

            สกรีนฝึกหัดสำหรับผู้ฝึกงานจะใช้ไม้ฉำฉาหรือแต่เพียงฝาหีบกระดาษแข็งก็ใช้ได้เหมือนกัน การจะใช้อย่างไรขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความพอเหมาะ

 

;;

By :
Free Blog Templates