06 มิถุนายน 2558
สกรีนประกอบด้วยกรอบไม้สี่เหลี่ยมขึงตึงด้วยผ้าไหมเนื้อละเอียด
เป็นที่มาของชื่อแม่พิมพ์และวิธีพิมพ์ว่า silk screen เดิมใช้ผ้าไหมสวิส เพราะเป็นผ้าที่มีเนื้อละเอียด
การทอสม่ำเสมอ มีขนาดตั้งแต่ 200 เส้นต่อ 2.5 ซม. ลงมา ขนาดที่พอเหมาะ คือ 70 – 140 เส้น
ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ความละเอียดของลาย เป็นผ้าที่มีราคาแพงมาก
ทำให้ปัจจุบันหันไปใช้ผ้าใยโพลีเอสเตอร์แทน แต่ก็ยังคงมีราคาแพงเช่นเดียวกัน
ถ้าต้องการทำให้เป็นสกรีนถาวร นิยมใช้ผ้าสกรีนทำด้วยลวดทองแดง
สำหรับสกรีนฝึกหัดใช้ผ้าแก้วไนลอน ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากแต่ได้ผลดีเช่นเดียวกัน
ขนาดของสกรีนไม่จำกัด
ถ้าพิมพ์ตามธรรมดาให้สกรีนมีขนาดใหญ่กว่าลายโดยรอบประมาณ 5 – 10 ซม.
ส่วนด้านบนและด้านล่างควรเป็นประมาณ 10 – 15 ซม.
ถ้าจะจัดทำเป็นงานอุตสาหกรรมควรใช้สกรีนขนาดเดียวกันตลอด
ทำให้จัดโต๊ะพิมพ์สะดวกขึ้น ขนาดต้องเกินกว่าความกว้างของผ้าที่จะพิมพ์
ทั้งด้านบนและด้านล่างด้านละ 10 – 15 ซม.
ด้านกว้างขึ้นอยู่กับขนาดของลายในหนึ่งวงจรเรียกกันว่า repeat
หมายความว่าเมื่อพิมพ์ไปหนึ่งครั้งแล้ว
ครั้งต่อไปลายจะหมุนเวียนมาตั้งต้นใหม่กันได้พอดี วงจรของลายต้องไม่ใหญ่เกินไป
เพราะขนาดของสกรีนจะต้องกว้างกว่าขนาดของวงจรด้านละ 10 ซม.
ถ้าวงจรใหญ่มากจะทำให้สกรีนกว้างมาก เมื่อพิมพ์ด้วยมือจะปาดสีไม่สะดวก
สีติดไม่สม่ำเสมอ
กรอบสกรีนจะเป็นไม้หรือโลหะก็ได้
ในประเทศไทยนิยมใช้ไม้ขนาดหนาประมาณ 2.5 – 4.0 ซม.
กว้างประมาณ 5.0 – 7.5 ซม. ใสเรียบทั้ง 4 ด้าน มุมต้องเข้าให้เป็นมุมฉากพอดี กรอบไม้นี้ใช้ไปนานๆ
มุมจะรวนได้เหมือนกัน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นิยมใช้กรอบโลหะ
ซึ่งนอกจากจะทนทานแล้วยังใช้กับแท่นพิมพ์สกรีนแบบอัตโนมัติได้ด้วย
สกรีนฝึกหัดสำหรับผู้ฝึกงานจะใช้ไม้ฉำฉาหรือแต่เพียงฝาหีบกระดาษแข็งก็ใช้ได้เหมือนกัน
การจะใช้อย่างไรขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความพอเหมาะ
Subscribe to:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น